เมนู

เสื่อม ด้วยประการฉะนี้.
บทว่า วิคฺคาหิกกถา ได้แก่การพูดแก่งแย่ง การพูดแข่งดี.
บทว่า สหิตํ เม ในอธิการนั้น ความว่า คำพูดของข้าพเจ้ามี
ประโยชน์ สละสลวย ประกอบด้วยผล ประกอบด้วยเหตุ.
บทว่า อสหิตนฺเต ได้แก่คำพูดของท่านไม่มีประโยชน์ ไม่สละ
สลวย.
บทว่า อธิจิณฺถเนเต วิปฺปราวตฺตํ ได้แก่ข้อที่ท่านคล่องแคล่ว
เป็นอย่างดี ด้วยอำนาจเคยสั่งสมมาเป็นเวลานานนั้น ได้ผันแปรไปแล้ว
คือบิดเบือนไปแล้ว ด้วยคำพูดคำเดียวเท่านั้นของเรา ท่านยังไม่รู้อะไร.
บทว่า อาโรปิโต เต วาโท ได้แก่ความผิดในวาทะของท่าน
ข้าพเจ้าจับได้แล้ว.
บทว่า จร วาทปฺปโมกฺขาย ความว่า เพื่อเปลื้องความผิด ท่าน
จงเที่ยวไปเที่ยวมา จงไปศึกษาในข้อนั้น ๆ เสีย.
บทว่า นิพฺเพเฐหิ วา สเจ ปโหสิ ความว่า ถ้าท่านเองสามารถ
ก็จงแก้ไขเสียในบัดนี้ทีเดียว.

ในเรื่องการทำตัวเป็นทูต มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้


บทว่า อิธ คจฺฉ ความว่า จงไปจากที่นี้สู่ที่ชื่อโน้น.
บทว่า อมุตร คจฺฉ ความว่า จงไปจากที่นั้นสู่ที่ชื่อโน้น.
บทว่า อิทํ หร ความว่า จงนำเรื่องนี้ไปจากที่นี้.
บทว่า อมุตฺร อิทํ อาหร ความว่า จงนำเรื่องนี้จากที่โน้นมา
ในที่นี้.

ก็โดยสังเขป ขึ้นชื่อว่าการทำตัวเป็นทูตนี้ สำหรับสหธรรมิกทั้ง 5
และข่าวสาสน์ ของคฤหัสถ์ที่เกี่ยวด้วยอุปการะพระรัตนตรัย ควร สำหรับ
คนเหล่าอื่น ไม่ควร.

ในบทว่า กุหกา เป็นต้น มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้


ที่ชื่อว่า พูดหลอกลวง เพราะหลอกลวงชาวโลก คือทำให้พิศวง
ด้วยเรื่องหลอกลวง 3 อย่าง.
ที่ชื่อว่า พูดเลียบเคียง เพราะเป็นผู้พูดมีความต้องการลาภสักการะ.
ที่ชื่อว่า พูดหว่านล้อม เพราะเป็นคำพูดที่มีการหว่านล้อมเป็น
ปกติทีเดียว.
ที่ชื่อว่า พูดและเล็ม เพราะมีคำพูดและเล็มเป็นปกติทีเดียว.
ที่ชื่อว่า แสวงหาลาภด้วยลาภ เพราะแสวงหา คือค้นหา เสาะหา
ลาภด้วยลาภ.
นี้เป็นชื่อของบุคคลผู้ประกอบด้วยการหลอกลวงเหล่านี้ คือ พูด
หลอกลวง พูดเลียบเคียง พูดหว่านล้อม พูดและเล็ม แสวงหาลาภด้วย
ลาภ. นี้เป็นความย่อในที่นี้ แต่โดยพิสดาร เรื่องพูดมีพูดหลอกลวง
เป็นต้น ข้าพเจ้าได้นำพระบาลีและอรรถกถามาประกาศไว้ในสีลนิเทศ
ในวิสุทธิมรรค ดังนี้แล.
มัชฌิมศีลจบเพียงเท่านี้.

เบื้องหน้าแต่นี้ไป เป็นมหาศีล


บทว่า องฺคํ ได้แก่ตำราทายอวัยวะที่เป็นไปโดยนัยมีอาทิว่า ผู้ที่ประ-
กอบด้วยอวัยวะมีมือและเท้าเห็นปานนี้อย่างใดอย่างหนึ่ง มีอายุยืน มียศ.